กิดานันท์ มลิทอง (http://www.st.ac.th/av/inno_multimedia.htm) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า สื่อประสมหรือสื่อหลายแบบ (Multimedia) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถผสมผสานระหว่างข้อความ ข้อมูล ตัวเลข ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ตลอดจนระบบโต้ตอบกับผู้ใช้ (Interactive) มาผสมผสานเข้าด้วยกัน
สื่อประสมหรือมัลติมีเดีย หมายถึงการนำเอาสื่อหลาย ๆ อย่าง เช่น รูปภาพ เทป แผ่นโปร่งใส มาใช้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนการสอน ต่อมาเมื่อมีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้มากขึ้น และสามารถใช้งาน ได้ทั้งภาพนิ่ง เสียง ข้อความและภาพเคลื่อนไหว ทำให้ความหมายของสื่อประสมเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่วนประกอบหลัก ที่มีใช้ทั่วไปของคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียจะมี CD-ROM sound card และลำโพง เพิ่มเข้ามาในคอมพิวเตอร์ หรืออาจมีส่วนประกอบที่เกี่ยวกับการใช้งานวิดีโอด้วย นอกจากนี้ยังมีความหมายรวมถึงการใช้การใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เครื่องวิดีโอเทปเสียง ซีดีรอม กล้องดิจิตอล โทรทัศน์ฯลฯ ให้ทำงานร่วมกัน การใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างดังกล่าวจะต้องอาศัย โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software) และอุปกรณ์ (Hardware) ต่าง ๆ ประกอบกัน บางครั้งจึงเรียกว่าสถานีปฏิบัติการมัลติมีเดีย (Multimedia workstation)
เศรษฐพงศ์ เสนาเพ็ง (http://cs.ssru.ac.th/s51122201117/index.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า สื่อประสมคือการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อแสดงและนำเสนอในรูปข้อความรูปภาพ เสียง วีดิทัศน์ โดยเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้เพื่อการท่องไปในเนื้อเรื่อง การมีปฏิสัมพันธ์ การสร้างและการสื่อสาร
http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=5903.0 ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า สื่อประสม (multimedia theory) เป็นการนำเอาสื่อการสอนหลาย ๆ อย่าง มาสัมพันธ์กัน และ มีคุณค่าที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างมีระบบ สื่อการสอนอย่างหนึ่งอาจใช้เพื่อเร้าความสนใจ ในขณะที่อีกสื่อใช้อธิบายข้อเท็จจริงของเนื้อหา การใช้สื่อประสมจะช่วยให้ผู้เรียน มีประสบการณ์จากประสาทสัมผัส ให้นักเรียนได้ค้นพบวิธีการ ที่จะเรียนในสิ่งที่ต้องการได้ด้วยตนเองมากยิ่งขึ้น
สรุป
สื่อประสม หมายถึงการนำเอาสื่อหลาย ๆ อย่าง เช่น รูปภาพ เทป แผ่นโปร่งใส มาใช้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนการสอน
ที่มา
1. กิดานันท์ มลิทอง. สื่อประสม (Multimedia) . (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก :
http://www.st.ac.th/av/inno_multimedia.htm . วันที่สืบค้นข้อมูล : 27 กรกฏาคม 2555.
2.
เศรษฐพงศ์ เสนาเพ็ง. ความหมายของคำว่าสื่อประสม. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก :
http://cs.ssru.ac.th/s51122201117/index.html . วันที่สืบค้นข้อมูล : 27 กรกฏาคม 2555.
3.
สื่อประสมกับการเรียนการสอน . (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก :
http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=5903.0 . วันที่สืบค้นข้อมูล : 27 กรกฏาคม 2555.
วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
สื่อการสอน คืออะไร
http://oohlively1.blogspot.com/ ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า สื่อการเรียนการสอน หมายถึง ตัวกลางหรือช่องทางในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ จากแหล่งความรู้ไปสู่ผู้เรียน และทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพประเภทของสื่อการเรียนการสอนสื่อการเรียนการสอนแบ่งตามคุณลักษณะได้ 4 ประเภทคือ
1. สื่อประเภทวัสดุ ได้แก่ สไลด์ แผ่นใส เอกสาร ตำรา สารเคมี สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และคู่มือการฝึกปฏิบัติ 2. สื่อประเภทอุปกรณ์ ได้แก่ ของจริง หุ่นจำลอง เครื่องเล่นเทปเสียง เครื่องเล่นวีดิทัศน์ เครื่องฉายแผ่นใส อุปกรณ์และเครื่องมือในห้องปฏิบัติการ 3. สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ ได้แก่ การสาธิต การอภิปรายกลุ่ม การฝึกปฏิบัติ การฝึกงาน การจัดนิทรรศการ และสถานการณ์จำลอง 4. สื่อประเภทคอมพิวเตอร์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer presentation) การใช้ Intranet และ Internet เพื่อการสื่อสาร (Electronic mail: E-mail) และการใช้ WWW (World Wide Web)
นริศรา โพธิ์ขำ (http://narissaraenglish.blogspot.com/2007/08/1.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า สื่อการสอน หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ ซึ่งถูกนำมาใช้ในการการเรียนการสอน เพื่อเป็นตัวกลางในการนำส่งหรือถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และเจตคติ จากผู้สอนหรือแหล่งความรู้ไปยังผู้เรียน ช่วยให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่ตั้งไว้
อัจฉรา วาทวัฒนศักดิ์ (http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-13225.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า
สื่อการสอน หมายถึง ตัวกลางหรือช่องทางในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ จากแหล่งความรู้ไปสู่ผู้เรียน และทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้สื่อต่างๆ เช่น สไลด์ แผ่นใส เอกสาร ตำรา คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เป็นต้น
ที่มา
1. ความหมาย ประเภทและประโยชน์ของสื่อการเรียนการสอน. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://oohlively1.blogspot.com/ . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. นริศรา โพธิ์ขำ. สื่อการสอนความหมายของสื่อการสอน. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://narissaraenglish.blogspot.com/2007/08/1.html . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555. 3. อัจฉรา วาทวัฒนศักดิ์. สื่อกับการจัดการเรียนการสอน. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-13225.html . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
นริศรา โพธิ์ขำ (http://narissaraenglish.blogspot.com/2007/08/1.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า สื่อการสอน หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ ซึ่งถูกนำมาใช้ในการการเรียนการสอน เพื่อเป็นตัวกลางในการนำส่งหรือถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และเจตคติ จากผู้สอนหรือแหล่งความรู้ไปยังผู้เรียน ช่วยให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่ตั้งไว้
อัจฉรา วาทวัฒนศักดิ์ (http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-13225.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า
สื่อการสอนหมายถึง สิ่งซึ่งใช้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และเจตคติให้แก่ผู้เรียน หรือทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ มนุษย์รู้จักนำเอาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ มาให้เป็นสื่อการสอน ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 1930 เป็นต้นมา ด้วยความเจริญก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ทำให้สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ตลอดจนวิธีการแปลก ๆ ถูกนำมาใช้เป็นสื่อการสอนกันอย่างกว้างขวาง เช่น การใช้โทรทัศน์เพื่อการศึกษาทั้งในระบบวงจรปิด และในระบบทางไกล หรือการใช้ชุดการสอนเพื่อการเรียนรู้เป็นรายบุคคล เป็นต้น
สรุป
ที่มา
1. ความหมาย ประเภทและประโยชน์ของสื่อการเรียนการสอน. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://oohlively1.blogspot.com/ . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. นริศรา โพธิ์ขำ. สื่อการสอนความหมายของสื่อการสอน. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://narissaraenglish.blogspot.com/2007/08/1.html . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555. 3. อัจฉรา วาทวัฒนศักดิ์. สื่อกับการจัดการเรียนการสอน. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-13225.html . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีบทบาทในการศึกษามีอะไรบ้าง และแต่ละอย่างเป็นอย่างไร
https://sites.google.com/site/krunoinetwork/thekhnoloyi-sarsnthes-pheux-kar-suksa ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology หรือ IT) ได้เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว และมีบทบาทสำคัญในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การบริการสังคม สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม รวมทั้งด้านการศึกษา ซึ่งการมีบทบาทสำคัญนี้อาจกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอทีนั้นเปรียบเหมือนเครื่องจักรที่สามารถรองรับข้อมูลข่าวสารมาทำการประมวลผล และการแสดงผลตามที่ต้องการได้รวดเร็ว โดยอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ช่วยในการจัดการ ได้แก่ โปรแกรมปฏิบัติการ โปรแกรมชุดคำสั่งต่างๆ และที่สำคัญคือ ผู้ที่จะตัดสินใจหรือสั่งการให้ทำงานได้ถูกต้องตามเป้าหมาย ซึ่งได้แก่ บุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ใช้ ผู้บริหาร และผู้ชำนาญการ หรือนักเทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรง รัฐบาลไทยในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญ เล็งเห็นประโยชน์และคุณค่าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยใน พ.ศ. 2535 ได้แต่งตั้ง "คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ" ขึ้น โดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและให้มีรองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นประธาน มีคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภาครัฐบาลและเอกชน และได้มอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการฯ มีหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งในเรื่องการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสร้างบรรยากาศ ให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการดำเนินงานด้านต่างๆ
http://thaigoodview.com/node/25772?page=0%2C0 ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทต่อการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคมมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาการศึกษา ดังนี้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องการเรียนรู้ ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ หลายด้าน มีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบสนับสนุนการรับรู้ข่าวสาร เช่น การค้นหาข้อมูลข่าวสารเพื่อการเรียนรู้ใน World Wide Web เป็นต้น 2. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาสนับสนุนการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการจัดการศึกษาสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารเพื่อการวางแผน การดำเนินการ การติดตามและประเมินผลซึ่งอาศัยคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมเข้ามามีบทบาทที่สำคัญ 3. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการสื่อสารระหว่างบุคคล ในเกือบทุกวงการทั้งทางด้านการศึกษาจำเป็นต้องอาศัยสื่อสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคล เช่น การสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน โดยใช้องค์ประกอบที่สำคัญช่วยสนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่นการใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เทเลคอมเฟอเรนซ์ เป็นต้น
ฉัตรชัย เรืองมณี (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/106346) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธ ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ (InformationTechnology) หรือที่เรียกว่า IT ได้ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นการสื่อสารข้อมูลเป็นไปด้วย ความรวดเร็วและเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงและกว้างขวาง(Globalization) เทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร (Communication) และ Computer ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อแลกเปลี่ยนสารสนเทศ (Information) ที่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดเครือข่ายข้อมูลที่เป็นเหมือน ใยแมงมุมครอบคลุมทั่วโลกหรือ WWW (World Wide Web) ที่เราเห็น ได้จากการใช้งานในระบบInternetซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ประจำวันไปเสียแล้วและกำลังขยายปริมาณจำนวนผู้ใช้มากขึ้นๆใน ทุกวันมีการใช้Internetในการสืบค้นข้อมูลความรู้ทั่วไปการติดต่อ สื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail), การพูดคุย(Chat) หรือ การใช้ Video conference เป็นต้น การทำธุรกิจการค้า (e-commerce) การใช้เพื่อการบันเทิงต่างๆ เป็นการดูหนัง,ฟังเพลง,การอ่านนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Magazine) รวมทั้งe-Bookที่อาจมาแทนที่กระดาษโนอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีสารสนเทศอาจมีทั้งคุณและโทษแต่ทั้งน้ี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์ในทางที่ดีได้อย่างไร ซึ่งเราสามารถนำระบบเทคโนโลยีสาสนเทศมาใช้เพื่อการพัฒนา ทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี
สรุป
ปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือที่เรียกว่า IT ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การสื่อสารข้อมูลเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงและกว้างขวาง เทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร และ Computer ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อแลกเปลี่ยนสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดเครือข่ายข้อมูลที่เป็นเหมือน ใยแมงมุมครอบคลุมทั่วโลกหรือ WWW (World Wide Web) ที่เราเห็น ได้จากการใช้งานในระบบ Internet ซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปเสียแล้วและกำลังขยายปริมาณจำนวนผู้ใช้มากขึ้นๆในทุกวันมีการใช้ Internet ในการสืบค้นข้อมูลความรู้ทั่วไปการติดต่อ สื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail), การพูดคุย(Chat) หรือ การใช้ Video conference เป็นต้น รวมทั้งe-Bookที่อาจมาแทนที่กระดาษในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเราสามารถนำระบบเทคโนโลยีสาสนเทศมาใช้เพื่อการพัฒนา ทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี
ที่มา
1. เทคโนโลยีมารสนเทศเพื่อการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/site/krunoinetwork/thekhnoloyi-sarsnthes-pheux-kar-suksa . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการศึกษา.เข้าถึงได้จาก : http://thaigoodview.com/node/25772?page=0%2C0 . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. ฉัตรชัย เรืองมณี . บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/106346 . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
http://thaigoodview.com/node/25772?page=0%2C0 ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทต่อการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคมมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาการศึกษา ดังนี้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องการเรียนรู้ ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ หลายด้าน มีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบสนับสนุนการรับรู้ข่าวสาร เช่น การค้นหาข้อมูลข่าวสารเพื่อการเรียนรู้ใน World Wide Web เป็นต้น 2. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาสนับสนุนการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการจัดการศึกษาสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารเพื่อการวางแผน การดำเนินการ การติดตามและประเมินผลซึ่งอาศัยคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมเข้ามามีบทบาทที่สำคัญ 3. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการสื่อสารระหว่างบุคคล ในเกือบทุกวงการทั้งทางด้านการศึกษาจำเป็นต้องอาศัยสื่อสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคล เช่น การสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน โดยใช้องค์ประกอบที่สำคัญช่วยสนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่นการใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เทเลคอมเฟอเรนซ์ เป็นต้น
ฉัตรชัย เรืองมณี (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/106346) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธ ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ (InformationTechnology) หรือที่เรียกว่า IT ได้ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นการสื่อสารข้อมูลเป็นไปด้วย ความรวดเร็วและเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงและกว้างขวาง(Globalization) เทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร (Communication) และ Computer ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อแลกเปลี่ยนสารสนเทศ (Information) ที่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดเครือข่ายข้อมูลที่เป็นเหมือน ใยแมงมุมครอบคลุมทั่วโลกหรือ WWW (World Wide Web) ที่เราเห็น ได้จากการใช้งานในระบบInternetซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ประจำวันไปเสียแล้วและกำลังขยายปริมาณจำนวนผู้ใช้มากขึ้นๆใน ทุกวันมีการใช้Internetในการสืบค้นข้อมูลความรู้ทั่วไปการติดต่อ สื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail), การพูดคุย(Chat) หรือ การใช้ Video conference เป็นต้น การทำธุรกิจการค้า (e-commerce) การใช้เพื่อการบันเทิงต่างๆ เป็นการดูหนัง,ฟังเพลง,การอ่านนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Magazine) รวมทั้งe-Bookที่อาจมาแทนที่กระดาษโนอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีสารสนเทศอาจมีทั้งคุณและโทษแต่ทั้งน้ี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์ในทางที่ดีได้อย่างไร ซึ่งเราสามารถนำระบบเทคโนโลยีสาสนเทศมาใช้เพื่อการพัฒนา ทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี
สรุป
ปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือที่เรียกว่า IT ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การสื่อสารข้อมูลเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงและกว้างขวาง เทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร และ Computer ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อแลกเปลี่ยนสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดเครือข่ายข้อมูลที่เป็นเหมือน ใยแมงมุมครอบคลุมทั่วโลกหรือ WWW (World Wide Web) ที่เราเห็น ได้จากการใช้งานในระบบ Internet ซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปเสียแล้วและกำลังขยายปริมาณจำนวนผู้ใช้มากขึ้นๆในทุกวันมีการใช้ Internet ในการสืบค้นข้อมูลความรู้ทั่วไปการติดต่อ สื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail), การพูดคุย(Chat) หรือ การใช้ Video conference เป็นต้น รวมทั้งe-Bookที่อาจมาแทนที่กระดาษในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเราสามารถนำระบบเทคโนโลยีสาสนเทศมาใช้เพื่อการพัฒนา ทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี
ที่มา
1. เทคโนโลยีมารสนเทศเพื่อการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/site/krunoinetwork/thekhnoloyi-sarsnthes-pheux-kar-suksa . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการศึกษา.เข้าถึงได้จาก : http://thaigoodview.com/node/25772?page=0%2C0 . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. ฉัตรชัย เรืองมณี . บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/106346 . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงอะไร
สิริวดี เวทมาหะ (http://siriwadee.blogspot.com/2008/05/blog-post_27.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)มาจากการผสมคำระหว่างสารสนเทศ (Information)กับคำว่าเทคโนโลยี(Technology) เทคโนโลยี หมายถึง เป็นการนำเอาแนวความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจนผลผลิตทางวิทยาศาสตร์ทั้งในด้านสิ่งประดิษฐ์และวิธีปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เทคโนโลยีสารสนเทศจึงหมายถึง การติดต่อสื่อสาร การส่งข้อมูลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ ตัวเลข เสียง ภาพโดยผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งการนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระบบเครือข่าย โดยผ่านระบบโทรคมนาคม
เทคโนโลยีสารสนเทศจึง หมายถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ โดยใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการจัดหา วิเคราะห์ ประมวล จัดการและจัดเก็บ การพิมพ์ การสร้างรายงาน การเรียกใช้หรือแลกเปลี่ยน และเผยแพร่สื่อสารข้อมูล ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของรูป เสียง ตัวอักษร หรือภาพเคลื่อนไหว รวมไปถึงการนำสารสนเทศและข้อมูลไปปฏิบัติตามเนื้อหาของสารสนเทศนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของผู้ใช้http://www.jadtem.com/4473/ ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที (อังกฤษ: Information technology หรือ IT) หมายถึงเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี สามารถแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ คอมพิวเตอร์, การสื่อสาร และข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ซึ่งในแต่ละกลุ่มนี้ยังแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ ได้อีกมากมาย องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนนี้ ยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอร์) เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบเครือข่าย (การสื่อสาร) โดยมีการส่งข้อมูลต่างๆ ไปยังเครื่องลูก (ข้อมูลแบบมัลติมีเดีย)
www.itexcite.com › IT-Learning › ความรู้ทั่วไป ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology, IT) หมายถึงเทคโนโลยีในการประมวลผลสารสนเทศ (คำว่า สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว) ซึ่งก็คือเทคนิควิธีการต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการจัดการข้อมูล (ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล) เช่น การจัดเก็บข้อมูล การสื่อสารข้อมูล การสืบค้นข้อมูล การแสดงผลข้อมูล เป็นต้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การจัดการข้อมูล เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว และง่ายดายยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาและความก้าวหน้าต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา
สรุป
เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology, IT) หมายถึงเทคโนโลยีในการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งก็คือเทคนิควิธีการต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการจัดการข้อมูล เช่น การจัดเก็บข้อมูล การสื่อสารข้อมูล การสืบค้นข้อมูล เป็นต้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การจัดการข้อมูล เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว และง่ายดายยิ่งขึ้น
ที่มา
1. สิริวดี เวทมาหะ. เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงอะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://siriwadee.blogspot.com/2008/05/blog-post_27.html. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2.
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงอะไร . (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.jadtem.com/4473/. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555. 3. เทคโนโลยีสารสนเทศ คืออะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : www.itexcite.com › IT-Learning › ความรู้ทั่วไป. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
เทคโนโลยี หมายถึงอะไร
http://bussabong.blogspot.com/ ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยี หมาย ถึง กระบวนการหรือวิธีการในการนำความรู้เรื่องแนวคิดมาประยุกต์องค์ประกอบหรือ องค์ความรู้ต่างๆ มาใช้อย่างเป็นระบบเพื่อให้การดำเนินงานในวงการต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สิริวดี เวทมาหะ (http://siriwadee.blogspot.com/2008/05/blog-post_27.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยี เป็นการนำเอาแนวความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจนผลผลิตทางวิทยาศาสตร์ทั้งในด้านสิ่งประดิษฐ์และวิธีปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น
www.com5dow.com/...IT/2223-เทคโนโลยี-คืออะไร.html ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยี (Technology) คือ การใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจน ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่ง ขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น
สรุป
เทคโนโลยี คือการนำเอาแนวความคิด เครื่องมือ หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจนผลผลิตทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น
ที่มา
1. ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://bussabong.blogspot.com/. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. สิริวดี เวทมาหะ. เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงอะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://siriwadee.blogspot.com/2008/05/blog-post_27.html. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. เทคโนโลยี คืออะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : www.com5dow.com/...IT/2223-เทคโนโลยี-คืออะไร.html . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
สิริวดี เวทมาหะ (http://siriwadee.blogspot.com/2008/05/blog-post_27.html) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยี เป็นการนำเอาแนวความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจนผลผลิตทางวิทยาศาสตร์ทั้งในด้านสิ่งประดิษฐ์และวิธีปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น
www.com5dow.com/...IT/2223-เทคโนโลยี-คืออะไร.html ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยี (Technology) คือ การใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจน ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่ง ขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น
สรุป
เทคโนโลยี คือการนำเอาแนวความคิด เครื่องมือ หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจนผลผลิตทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น
ที่มา
1. ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://bussabong.blogspot.com/. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. สิริวดี เวทมาหะ. เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงอะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://siriwadee.blogspot.com/2008/05/blog-post_27.html. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. เทคโนโลยี คืออะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : www.com5dow.com/...IT/2223-เทคโนโลยี-คืออะไร.html . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
นวัตกรรมทางการศึกษา คืออะไร
อรรคเดช โสสองชั้น (http://ceit.sut.ac.th/km/wordpress/?p=138) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า นวัตกรรมทางการศึกษา” (Educational Innovation) หมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำ รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษา เพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียน และช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน เช่น การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้วีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ(Interactive Video) สื่อหลายมิติ (Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น
http://www.namonpit.ac.th/file/ei.pdf ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า นวัตกรรมทางการศึกษา คือ การปรับประยุกต์ ความคิดใหม่ วิธีการใหม่ รูปแบบใหม่ เทคนิคใหม่ แนวทางใหม่ ที่สร้างสรรค์และพัฒนาทั้งจากการต่อยอดภูมิปัญญาเดิม หรือจากการคิดค้นขึ้นมาใหม่ให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในระบบการศึกษา นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
http://bussabong.blogspot.com/ ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีการศึกษา หมาย ถึง การประยุกต์ใช้สหวิทยาอย่างเป็นระบบเพื่อให้ได้แนวคิด เครื่องมือ เทคนิคและวิธีกาต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และพัฒนาการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพตามจุดมุ่งหมาย
สรุป
นวัตกรรมทางการศึกษา คือ การประยุกต์ความคิดใหม่ วิธีการใหม่ รูปแบบใหม่ เทคนิคใหม่ แนวทางใหม่ ที่สร้างสรรค์และพัฒนาทั้งจากการต่อยอดภูมิปัญญาเดิม หรือจากการคิดค้นขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ที่มา
1. อรรคเดช โสสองชั้น. นวัตกรรมทางการศึกษา คืออะไร. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://ceit.sut.ac.th/km/wordpress/?p=138. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. นวัตกรรมทางการศึกษา คืออะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.namonpit.ac.th/file/ei.pdf. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://bussabong.blogspot.com/. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
http://www.namonpit.ac.th/file/ei.pdf ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า นวัตกรรมทางการศึกษา คือ การปรับประยุกต์ ความคิดใหม่ วิธีการใหม่ รูปแบบใหม่ เทคนิคใหม่ แนวทางใหม่ ที่สร้างสรรค์และพัฒนาทั้งจากการต่อยอดภูมิปัญญาเดิม หรือจากการคิดค้นขึ้นมาใหม่ให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในระบบการศึกษา นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
http://bussabong.blogspot.com/ ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีการศึกษา หมาย ถึง การประยุกต์ใช้สหวิทยาอย่างเป็นระบบเพื่อให้ได้แนวคิด เครื่องมือ เทคนิคและวิธีกาต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และพัฒนาการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพตามจุดมุ่งหมาย
สรุป
นวัตกรรมทางการศึกษา คือ การประยุกต์ความคิดใหม่ วิธีการใหม่ รูปแบบใหม่ เทคนิคใหม่ แนวทางใหม่ ที่สร้างสรรค์และพัฒนาทั้งจากการต่อยอดภูมิปัญญาเดิม หรือจากการคิดค้นขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ที่มา
1. อรรคเดช โสสองชั้น. นวัตกรรมทางการศึกษา คืออะไร. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://ceit.sut.ac.th/km/wordpress/?p=138. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. นวัตกรรมทางการศึกษา คืออะไร. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.namonpit.ac.th/file/ei.pdf. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://bussabong.blogspot.com/. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
นวัตกรรม คืออะไร
จรินทร์ อาสาทรงธรรม (http://business.vayoclub.com/index.php?topic=1195.0) ได้กล่าวไว้ว่า นวัตกรรม (Innovation)คือ การเรียนรู้ การผลิต และการใช้ประโยชน์จากความคิดใหม่ เพื่อให้เกิดผลดีทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการกำเนิดผลิตภัณฑ์ การบริการ กระบวนการใหม่ การปรับปรุงเทคโนโลยี การแพร่กระจายเทคโนโลยี และการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์และเกิดผลพวงทางเศรษฐกิจและสังคม
อรรคเดช โสสองชั้น (http://ceit.sut.ac.th/km/wordpress/?p=138) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า “นวัตกรรม” หมายถึงความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อนำ นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย
มาลินี ธนารุณ (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/11973?) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า โทมัส ฮิวส์ (Hughes,1987) ได้ให้ความหมายของนวัตกรรมว่า เป็นการนำเอาวิธีการใหม่ มาปฏิบัติหลังจากที่ได้ผ่านการทดลองและได้รับการพัฒนามาเป็นลำดับแล้ว และมีความแตกต่างจากการปฏิบัติเดิมที่เคยปฏิบัติมา
สรุป
นวัตกรรม คือ การเรียนรู้ การปฏิบัติ การผลิตหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อนหรือ พัฒนาดัดแปลงมาจากของเดืมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยมากขั้น
ที่มา
1. จรินทร์ อาสาทรงธรรม. Innovation หรือ นวัตกรรม คืออะไร?. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://business.vayoclub.com/index.php?topic=1195.0 . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. อรรคเดช โสสองชั้น. ความหมายของ นวัตกรรมทางการศึกษาและเทคโนโลยีทางการศึกษา. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://ceit.sut.ac.th/km/wordpress/?p=138. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. มาลินี ธนารุณ. นวัตกรรม คืออะไร . (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/11973?. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
อรรคเดช โสสองชั้น (http://ceit.sut.ac.th/km/wordpress/?p=138) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า “นวัตกรรม” หมายถึงความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อนำ นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย
มาลินี ธนารุณ (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/11973?) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า โทมัส ฮิวส์ (Hughes,1987) ได้ให้ความหมายของนวัตกรรมว่า เป็นการนำเอาวิธีการใหม่ มาปฏิบัติหลังจากที่ได้ผ่านการทดลองและได้รับการพัฒนามาเป็นลำดับแล้ว และมีความแตกต่างจากการปฏิบัติเดิมที่เคยปฏิบัติมา
สรุป
นวัตกรรม คือ การเรียนรู้ การปฏิบัติ การผลิตหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อนหรือ พัฒนาดัดแปลงมาจากของเดืมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยมากขั้น
ที่มา
1. จรินทร์ อาสาทรงธรรม. Innovation หรือ นวัตกรรม คืออะไร?. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://business.vayoclub.com/index.php?topic=1195.0 . วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
2. อรรคเดช โสสองชั้น. ความหมายของ นวัตกรรมทางการศึกษาและเทคโนโลยีทางการศึกษา. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://ceit.sut.ac.th/km/wordpress/?p=138. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
3. มาลินี ธนารุณ. นวัตกรรม คืออะไร . (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/11973?. วันที่สืบค้นข้อมูล : 26 กรกฏาคม 2555.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)